สมัยใหม่ (Modern Ages and Contemporary) ของ ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมือง

ยุคสว่างทางภูมิปัญญา ช่วงปลายศตวรรษที่ 14 ยุคสมัยกลางเริ่มหดตัวถอยหลังและค่อยๆหายไปจากประวัติศาสตร์ และเริ่มเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา การฟื้นฟูเริ่มต้นที่ประเทศอิตาลี่เป็นแห่งแรกนับตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมันล่มสลายในช่วงศตวรรษที่ 6 มีการเกิดชนชั้นกลางที่มีความมั่งคั่งทำให้ประชาชนจำนวนมากมีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น มีเวลาว่างในการทำกิจกรรมรื่นเริงและมีคุณค่าทางศิลปวิทยาการ กลุ่มปัญญาชนหันมาสนใจในการศึกษาวรรณคดี ภาษา ศิลปและวัฒนธรรมของคนในสมัยกรีกและโรมัน การตื่นตัวในการศึกษาเช่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดใหม่ๆนานัปการ ในช่วงศตวรรษที่ 17 เกิดเป็นยุคสว่างทางปัญญา มีการเจริญก้าวหน้าและเติบโตขึ้นทางวิชาการ แนวคิดสำคัญในยุคสมัยนี้คือความเชื่อต่อสิทธิอำนาจแบบประเพณีนิยมในเรื่องการเมืองและศาสนาเสื่อมถอยลง ความเชื่อและการเคารพซึ่งเหตุและผลเป็นหลักในการบ่งบอกถึงคุณสมบัติของมนุษย์ งานเขียนที่สะท้อนความคิดยุคนี้คืองานเขียนของ วอลแต์ ในฝรั่งเศสและ คานท์ ในเยอรมนี ยุคสมัยนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดแบบเสรีนิยม สากลนิยมโดยแยกโลกของฆราวาสออกจากศาสนาและการต่อต้านสิทธิอำนาจเด็ดขาด(Anti-Authoritarian) จะเห็นได้จากงานของ คานท์ เพน และรุสโซ [17] [18]

การเกิดขึ้นของรัฐสมัยใหม่รัฐสมัยใหม่มีความเป็นมาจาการที่รัฐฆราวาส เริ่มมีบทบาทและอำนาจเพิ่มมากขึ้นสวนทางกับศาสนจักร กษัตริย์ที่เข้มแข็งและมีประเทศอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบตั้งตนเป็นใหญ่ ข้อเท็จจริงของการมีอำนาจที่เกิดขึ้นเช่นนี้สะท้อนแนวความคิดว่า อาณาจักรไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้อาณัติของศาสนจักรหรืออยู่ใต้อำนาจทางโลกอื่นอีกต่อไป อาณาจักรมีสถานะใหม่เป็นรัฐ(State) มีคุณค่าในตัวเองไม่ขึ้นต่อผู้ใด นักคิดพยายามยกย่องอำนาจส่วนกลางของรัฐให้เป็นอำนาจในการปกป้องประเทศชาติ [19]

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติการบินไทย